วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ประวัติซำซํวก๊กอ้วง

ประวัติ
สถานที่สถิตเทพ ซำซัวก๊กอ้วง อยู่ที่ภูเขาสามลูกในมณฑณกวางตุ้ง ได้แก่ ภูเขาต๊กซัว ภูเขาเม่งซัว ภูเขากึ่งซัว  ซำซัวก๊กอ้วง เป็นเทพที่สถิตอยู่ภูเขาสามลูกนี้  บนยอดเขากึ่งซัวกล่าวกันว่ายังมียอดหินอยู่หนึ่งลูกบนหินสีขาวได้จารึกชื่อซำซัวก๊กอ้วงปรากฎอยู่  ตามประวัติในยุคราชวงศ์สุยมีชื่อสามพี่น้องในราชโองการเง็กเซียนฮ่องเต้ประกาศอยู่ในถ้ำของภูเขากึ่งซัว ชาวบ้านที่อยู่บริเวณภูเขามีความเชื่อว่าองค์เทพได้ปกปักรักษาชาวบ้านบริเวณนั้น  ทางตอนใต้ของไต้หวันก็มีศาลเจ้าซำซัวก๊กอ้วงและได้ให้ข้อมูลประวัติของซำซัวก๊กอ้วงดังนี้  ซำซัวก๊กอ้วงเป็นวีรบุรุษผู้กล้าหาญ ตั่วอ้วง แซ่เลี้ย ชื่อเกี๊ยก ชื่อรองเชงห่วย เป็นชาวมณฑลกวางตุ้งเมืองเกียะเอี้ยงอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองเกียะเอี้ยง บิดาแซ่เลี้ยงเป็นคนมีชื่อเรื่องใจบุญ ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นคนซื่อสัตย์มัธยัสถ์อดทน มารดาแซ่อึ่งเป็นคนสุภาพเรียบร้อยทั้งคู่ได้อยู่กินด้วยกันนานหลายปีแต่ยังไม่มีบุตรมักจะไหว้พระขอบุตรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นประจำหวังให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประทานลูกให้ทั้งด้วยแรงศรัทธาจึงทำให้ทั้งคู่สมหวังไม่นานก็ได้กำเนิดลูกชายหนึ่งคนได้ตั้งชื่อว่าเลี้ยงเกี๊ยก  ในขณะที่เลี้ยงเกี๊ยกอายุได้เจ็ดขวบได้เกิดโรคระบาดในมณฑลกวางตุ้งบิดามารดาทั้งสองได้ติดโรคระบาดจนทำให้ทั้งคู่เสียชีวิตเลี้ยงเกี๊ยกจึงต้องสูญเสียบิดามารดาอันเป็นที่รักไม่มีญาติพี่น้องที่จะคอยดูแลต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวตามลำพังได้มีชายแซ่เตียวคนหนึ่งได้ทำการอุปการะในวัยเด็กได้ฉายแววความอัจฉริยะเป็นที่รักใคร่ของชายแซ่เตียวเป็นอย่างมากได้ดูแลอย่างดีเปรียบดังลูกของตนเองเขาได้เชิญอาจารย์มาสอนวิชาทั้งบู๊และบุ่นให้กับเลี้ยงเกี๊ยกบัดนั้นเลี้ยงเกี๊ยงจึงได้ศึกษาวิชาทั้งบู๊และบุ่นเขาได้ฝึกวิชาตลอดเวลาจนระยะเวลาผ่านไปสิบกว่าปีเขาจึงสำเร็จวิชาชำนาญทั้งบทกวีเชี่ยวชาญทั้งวิทยายุทธ  หยี่อ้วงแซ่เตี๋ยชื่อฮิงชื่อรองจ๋อเจ่งเป็นคนเมืองเกียะเอี้ยงเหมือนกับตั่วอ้วงเลี้ยงเกี๊ยก  บิดาชื่อเตี๋ยสุง  เป็นคนที่มีชื่อเสียงของเมืองเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปบ้านสกุลเตี๋ยเป็นเศรษฐีของเมืองเกียะเอี้ยง หยี่อ้วงเตี๋ยฮิง  ตั้งแต่วัยเด็กสนใจเรียนวิทยายุทธจึงได้ขอเรียนศึกษาจนสำเร็จวิทยายุทธแขนงต่างๆวันหนึ่งได้ขี่ม้าขึ้นเขาเพื่อล่าสัตว์ก็ได้พบกวางตัวหนึ่งจึงได้ยิงธนูออกไปและได้ยิงธนูถูกกวางตัวนั้นในขณะที่ตั่วอ้วงเลี้ยงเกี๊ยกก็ได้พลัดหลงเข้ามาเห็นกวางถูกธนูบาดเจ็บจนเลือดออกด้วยความเมตตาจึงดึงลูกธนูออกมาและได้ฉีกชายเสื้อเพื่อทำแผลให้กับกวางในขณะเดียวกันนั้นเตี๋ยฮิงก็ได้มาพบความเมตตาของเลี้ยงเกี๊ยกแต่ตัวเขาทำบาปเพื่อความสุขส่วนตัวเตี๋ยฮิงจึงเกิดความละอายใจที่ได้เห็นความเมตตาของเลี้ยงเกี๊ยกหยี่อ้วงเตี๋ยฮิงจึงเชิญเลี้ยงเกี๊ยกมาที่บ้านของตนเขาได้ต้อนรับในฐานะเจ้าบ้านที่ดีเลี้ยงเกี๊ยกพักบ้านสกุลเตี๋ยได้ไม่นานก็ได้ขอลากับเตี๋ยฮิงเพื่อเดินทางต่อไปเตี๋ยฮิงจึงมอบม้าและเงินหนึ่งร้อยตำลึงเป็นของขวัญ  และได้ลาจากไป  ซาอ้วงแซ่เคี้ยวชื่อจุ่นชื่อรองหุยอุย อยู่กับบิดามารดามาตั้งแต่เด็ก ทำอาชีพช่างตีเหล็กเป็นคนเข้มแข็งและไม่ชอบสิ่งที่ไม่เป็นธรรม เป็นคนมีคุณธรรมสูงส่ง ตัวอ้วงเลี้ยงเกี๊ยกจึงได้ชักชวนรวมกลุ่มเคี้ยวจุนก็พูดว่าข้าพเจ้าเป็นคนที่นี้  เห็นชาวบ้านถูกรังแกสตรีถูกข่มเหง ข้าพเจ้าพร้อมที่จะช่วยเหลือชาวบ้าน เลี้ยงเกี๊ยกจึงกล่างขอบคุณเคี้ยวจุนเป็นอย่างมากเลี้ยงเกี๊ยกและเคี้ยวจุนทั้งสองจึงร่วมอุดมการณ์รักษาคุณธรรม เคี้ยวจุนจึงเชิญเลี้ยงเกี๊ยกมาเป็นแขกที้บ้าน เลี้ยงเกี๊ยกจึงตกลงด้วยความยินดี ทั้งสองได้พูดคุยกันและตกลงจะเป็นพี่น้องร่วมสาบานโดยให้เลี้ยงเกี๊ยกเป็นพี่ใหญ่ทั้งสองคนได้สาบานวันที่สิบสามเดือนหกของปีนั้น  และได้ท่องเที่ยวขี่ม้าบนเขา  เคี้ยวจุนได้ขี่ม้าเพียงลำพังจนถึงเขาลูกหนึ่งได้พบคนจำนวนมากเดินผ่านมา  จึงได้ไปตามพี่ใหญ่ เพื่อปรึกษาว่าควรทำเช่นไร เลี้ยงเกี๊ยกก็รีบเดินทางไปดู ก็ได้พบหยี่อ้วงเตี๋ยฮิงอยู่ในคนกลุ่มนั้นเขารู้สึกยินดีเป็นอย่างมากเลี้ยงเกี๊ยกก็ได้แนะนำให้ทั้งสองรู้จักกันเมื่อได้พูดคุยก็ถูกชะตาเป็นอย่างยิ่งทั้งสามมีความเห็นเดียวกันเพื่อความสัมพันธ์ดุจดังพี่น้องจึงได้ร่วมเป็นพี่น้องร่วมสาบานกันเลี้ยงเกี๊ยกอายุยี่สิบสี่ปีเป็นพี่ใหญ่เตี๋ยฮิงอายุยี่สิบสองปีเป็นพี่รองเคี้ยวจุนอายุยี่สิบเอ็ดปีเป็นน้องสามเลี้ยงเกี๊ยกเตี๋ยฮิงเคี้ยวจุนได้พักอาศัยอยู่บนเขาฮั้วซัวจนวันหนึ่งพวกท่านกำลังออกจากเขา  ขณะที่ลงจากเขาก็ได้พบกับกลุ่มข้าศึกคลุมผ้าสีเหลืองกำลังลงจากเขาเช่นเดียวกันพวกเขาจึงมีความคิดที่จะกำจัดข้าศึกเหล่านี้สามพี่น้องเห็นผู้นำที่อยู่บนม้าจึงได้วางแผนซึ่งสามพี่น้องได้อาศัยบนเขาฮั้วซัวเป็นระยะเวลาสามปีพวกเขารู้เส้นทางบนเขาเป็นอย่างดีก็ล่อแม่ทัพข้าศึกและเหล่าทหารไปยังหน้าผาและใช้แผนไฟในการโจมตีแม่ทัพนั้นถูกล้อมด้วยไฟเหล่าทหารข้าศึกหากไม่ถูกไฟครอกก็กระโดดลงหน้าผาทำให้ทหารข้าศึกบาดเจ็บล้มตายไปจำนวนมากดังนั้นทางการจึงได้ติดประกาศขอบคุณในการปราบข้าศึกในครั้งนี้และให้มาแสดงตัวได้พาทั้งสามพี่น้องไปเมืองหลวงเพื่อรับรางวัลตอบแทนที่ช่วยเหลือชาติบ้านเมืองในครั้งนี้และจะหาคนดีมีฝีมือช่วยเหลือประเทศเจ้าหน้าที่จึงจะแต่งตั้งตำแหน่งให้แต่ทั้งสามพี่น้องไม่มีความใยดีต่อลาภยศสรรเสริญแต่หากไม่รับตำแหน่งก็จะเกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองจึงตัดสินใจรับตำแหน่งด้วยความไม่เต็มใจนักหวังว่าจะปราบข้าศึกให้สำเร็จหลังจากได้ปราบปรามจนบ้านเมืองสงบศึกฮ่องเต้ในรัชสมัยนั้นจึงประกาศแต่ตั้งทั้งสามเป็นติ่งก๊กตั่วหง่วงส่วยขุนพลปราบข้าศึกแต่ทั้งสามได้ปฏิเสธตำแหน่งนี้แล้วก็เกิดสงครามอีกครั้งที่ชายแดนพวกท่านก็ออกรบจนชนะศึกครั้งใหญ่นี้กลับมาฮ่องเต้ยินดีเป็นอย่างยิ่งและได้ประกาศแต่งตั้งเป็นติ่งก๊กตั่วหง่วงส่วยแต่พวกท่านไม่ต้องการในตำแหน่งแต่ต้องการอยู่อย่างสงบบนเขาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขด้วยปนิธานที่มุ่งมั่นจึงแจ้งความประสงค์กับฮ่องเต้ซึ่งได้รับอนุญาตตามประสงค์และขอบใจที่ช่วยออกรบในครั้งนี้ทั้งสามได้ขอบพระทัยและได้ออกจากเมืองหลวงนับแต่นั้นมาก็ได้เข้ามาอาศัยอยู่บนเขาทั้งสามมีความภักดีต่อประเทศชาติช่วยเหลือชาวบ้านผู้เดือดร้อนทั่วไปดำรงอยู่ในคุณธรรมอันดีงามจึงเป็นที่นับถือของคนทั่วไป กึ่งซัวเม่งซัวต๊กซัวได้ปลีกวิเวกไม่ยุ่งกับสังคมภายนอกอยู่อย่างสงบจนได้สิ้นบุญในวัยแปดสิบด้วยโรคชรา เตี๋ยฮิงและเคี้ยวจุนเสียชีวิตไม่นานจากนั้นต่อมาจึงเป็นที่กล่าวขานเรื่องราวของสามพี่น้องฮ่องเต้ในรัชสมัยต่อมาได้แต่งตั้งกึ่งซัวเม่งซัวต๊กซัวเพื่อสักการะดวงวิญญาณที่คอยปกป้องให้ประเทศรอดจากอันตรายในรัชสมัยซ่งไท่จงจึงแต่งตั้งเป็นซำซัวก๊กอ้วง

เลี้ยงเชงห่วยติ่งซิ่วกึ่งซัว อุ๊ยอุยเต๊กป่อก๊กอ้วง
เตี๋ยจ๋อเจ่งติ่งซิ่วเม่งซัว อุ๊ยเม่งสกเล่งก๊กอ้วง
เคี้ยวหุยอุยติ่งซิ่วต๊กซัว อุ๊ยฮงเอ่งฮงก๊กอ้วง

神明原由
三山国王 所指是三座山     是广东省境内的独山
明山 巾山  三山国王         是这三座山岭之神
在巾山山顶有一石岩 上面刻有巾子白云岩
三山国王 十大字       相传在隋朝即有兄弟三位人
奉玉帝旨令显化巾山石穴           并自称下凡镇山
以保居民之安全        根据台南市三山国王庙
所提供的资料             三山国王名有姓氏名讳
是南北朝未期的英雄好漠          大国王名叫连杰 字清化
是广东揭扬县人士    揭扬县就是现在改为揭西县
父亲连土是当地的大善人 世代务农为业
为人忠厚勤俭乐善好施  母亲黄氏贤慧温雅
夫妻两人结□多年并没生育  时常往寺庙香嘌佛
祈求天赐麟儿   虔诚之心感动上苍
以其不惑之年幸得一子     命名为连杰
在连杰七岁时   广东揭扬县疫四起
连土夫妇两人遭犯瘟疫     双双亡故  连杰痛失双亲 之爱晖
上无伯叔兄姐之照顾 孤苦伶仃
幸得城内有一张员外 怜悯而收养
自幼 肩清眦眼秀聪敏过人 甚得张员外之喜爱
将他当做亲生子一般爱护          又聘请文武各师教导
而连杰就此习文练武         在朱门春风化雨
历经十载有余           勤读诗书武艺一曰千里
二王赵轩字助政        与大王连杰同揭扬县的人
父亲赵顺          是南北朝时期的文秀手
人称赵秀手       赵家是家财富甲揭扬
二王赵轩          自幼则勤学习文练武
出口成章          武艺精通
有一天单行独马上山打猎          射中一只臣鹿
被射中的这只鹿        负伤带箭夺路奔驰
此时适逄大王连杰流浪 至此     忽见臣鹿血流不止
怜悯之心就将箭□出          又将身上的衣服撕破
包在这只鹿中箭之处 此时赵轩纵骑赶来   
目睹连杰之慈悲心肠 而自觉自己杀生取乐的行为     
甚感惭愧赵轩深为敬佩连杰之典范            二王赵轩就请连杰回家中         
以表地主之意           连杰在赵家居返住数日    
以有事为由要来离开赵轩不敢强留            临行赠送马匹以及白银百两
依依惜别          三王乔俊字惠威
自幼双亲早就过往    以打铁为生
个性刚强好打不平    为人正直义气
大王连杰问其众人围困之事      乔俊就说我路经此地
见众恶徒白日强抢良家妇女      我出面阻止致遭围打
今曰幸蒙□助甚为感激      连杰与乔俊两人义气相投
乔俊就邀请连杰到家中     连杰欣然同意
言下志同道合结为金兰     连杰为大
是年六月十三曰兄弟两人          纵马游于山中
乔俊单骑先行   到一山丘忽被数人骑马下坡
撞得人仰马翻   双方正在理论之间
连杰也赶到现场        忽见二王赵轩也在人群其中
不觉相视而笑           经过连杰介绍之后
化干戈为玉帛           三人一见如故
倡效桃园三结义        结为异姓兄弟
连杰时年二十四岁为大     赵轩二十二岁为二兄
乔俊二十一岁排为三弟     连杰 赵轩 乔俊
在华山隐居三载        有一曰他们离开山上
往山下而行       忽见一位黄袍将军带领兵马
往山下而奔       背后有贼兵追赶
三兄弟见状就上马肋阵     因为三兄弟在华山居住三年
对山势非常的了解    就将贼兵引到断崖
而施计用火攻           贼兵被火围困
不得己众贼兵跳下断崖     死伤无数
因此官兵反败为胜    此时黄袍将军前来感谢
并表明身份       欲带三兄弟回京城
犒赏救朝中奸邪当道 忠良反受逼害
为官终必受累   臣三兄弟视功各如浮云
当今天下大乱贼寇末除     臣虽不愿受封
但愿借二路兵马        力平乱贼为国除害皇上准许即封三人为
镇国大元帅       但三人依然不肯受封
马上就征讨贼寇到边关     大败贼兵与番众
皇上大悦          欲再封三人为镇国大元帅
但他们依然不愿受封 坚持归隐山林
以享平生之志           富朝天子见其坚决意志
乃准其所愿       并赐宝剑先斩后秦
三人叩谢圣恩离开京都     从此隐居山林
三兄弟忠心报国        之勋永垂丹青
功成身退之高风亮节 令人敬仰
巾山明山独山           不计各份
过着闲云野鹤的日子 享年八十岁无病而终
赵轩乔俊          不久也双双仙逝
朝□闻知三兄弟辞世          由天子亲领文武官
到巾山明山独山        祭祀英灵
其后英灵时常显圣救国护民      在宋朝太宗年间
敕封为三山国王
连清化镇守巾山为威德报国王
赵助政镇守明山为明肃宁国王

乔惠威镇守独山为弘应丰国王

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วีรชนผู้บุกเบิกแผ่นดิน

วีรชนผู้บุกเบิกแผ่นดิน       วีรชนผู้ที่บุกเบิกแผ่นดินจนมีความเจริญรุ่งเรืองให้กับแผ่นดินที่ได้บุกเบิกและเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านนั้น...